หลายท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมบอยเลอร์ก็ทำงานปกติ การเผาไหม้ดูเหมือนจะสมบูรณ์ แต่บิลค่าเชื้อเพลิงกลับสูงขึ้นเรื่อย ๆ จุดเล็ก ๆ ที่ผมมักจะพบว่าเป็น “รอยรั่วทางการเงิน” ที่มองไม่เห็นในหลายโรงงาน คือ การละเลยความสำคัญของ ระบบท่อและฉนวนน้ำมันเตา ครับ บ่อยครั้งที่เราโฟกัสแต่ประสิทธิภาพของหัวพ่นไฟหรือตัวหม้อไอน้ำ จนลืมไปว่าเส้นทางลำเลียงเชื้อเพลิงนั้น หากไม่มีการเก็บรักษาความร้อนที่ดี พลังงานมหาศาลจะสูญเสียไประหว่างทางก่อนที่จะถูกนำไปใช้จริงเสียอีกครับ
ทำไมอุณหภูมิจึงเป็นหัวใจสำคัญของการส่งจ่ายน้ำมันเตา
ผมต้องขออธิบายพื้นฐานสักนิดครับว่า น้ำมันเตา (Fuel Oil) มีธรรมชาติที่แตกต่างจากน้ำมันดีเซลหรือก๊าซ ตรงที่ “ความหนืด” ของมันแปรผันตรงกับ “อุณหภูมิ” ครับ หากระบบท่อของเราไม่สามารถรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมได้ (โดยทั่วไปมักจะต้องอุ่นให้ร้อนเพื่อให้ไหลได้สะดวก) น้ำมันจะหนืดขึ้นทันที
เมื่อน้ำมันหนืด สิ่งที่ตามมาคือ
- ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงทำงานหนักขึ้น กินไฟมากขึ้น และสึกหรอเร็ว
- การฉีดฝอย (Atomization) ที่หัวเผาทำได้ไม่ดี เพราะน้ำมันข้นเกินไป ทำให้เผาไหม้ไม่หมด เกิดเขม่า และสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
- สูญเสียพลังงานความร้อนจากท่อสู่บรรยากาศภายนอกโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งนี่คือเงินทุนของท่านที่ระเหยไปในอากาศครับ
หลักการเลือกฉนวนหุ้มท่อที่ผมแนะนำ
การเลือกฉนวน หรือ Insulation ไม่ใช่แค่เอาอะไรก็ได้มาหุ้มท่อครับ จากประสบการณ์ของผม การเลือกผิดประเภทหรือผิดขนาด ส่งผลกระทบต่อการประหยัดพลังงานอย่างชัดเจนครับ
ความหนาและความหนาแน่นของฉนวน
ผมแนะนำว่าความหนาของฉนวนต้องสัมพันธ์กับขนาดท่อและอุณหภูมิใช้งานครับ หากฉนวนบางเกินไป ความร้อนก็จะยังถ่ายเทออกมาได้ สังเกตง่าย ๆ คือถ้าท่านเอามือไปอังใกล้ ๆ ผิวฉนวนแล้วรู้สึกร้อนวูบ ๆ แสดงว่าฉนวนนั้นกักเก็บความร้อนไม่อยู่แล้วครับ การลงทุนเพิ่มความหนาของฉนวนอีกเล็กน้อย มักจะคุ้มทุน (Payback Period) รวดเร็วมากจากการประหยัดเชื้อเพลิงครับ
ชนิดของวัสดุและการป้องกันความชื้น
ศัตรูตัวฉกาจของฉนวนคือ “น้ำ” ครับ หากฉนวนเปียกชื้น ประสิทธิภาพในการกันความร้อนจะลดลงจนแทบจะเป็นศูนย์ หรือแย่กว่านั้นคือกลายเป็นตัวนำความร้อนเสียเอง ผมจึงขอเน้นย้ำเรื่องการหุ้มแจ็กเก็ต (Cladding/Jacketing) ภายนอกให้มิดชิด โดยเฉพาะท่อที่เดินภายนอกอาคาร วัสดุหุ้มต้องกันฝนและกันกระแทกได้ดีครับ
การวางไลน์ท่อและการอุ่นน้ำมัน (Heat Tracing)
นอกจากการหุ้มฉนวนแล้ว ระบบการให้ความร้อนเลี้ยงท่อ หรือ Heat Tracing ก็เป็นสิ่งที่ผมอยากชวนให้ท่านพิจารณาครับ สำหรับท่อส่งน้ำมันเตาที่มีระยะทางไกล การหุ้มฉนวนเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะถ้ามีการหยุดเดินเครื่อง น้ำมันในท่ออาจจะเย็นตัวลงจนแข็งตัวและอุดตันได้
ผมแนะนำให้พิจารณาระบบ Steam Tracing (ใช้ไอน้ำเดินขนาน) หรือ Electric Tracing (ใช้ไฟฟ้า) ตามความเหมาะสมของหน้างาน เพื่อรักษาอุณหภูมิน้ำมันให้คงที่ตลอดเส้นทาง พร้อมเข้าสู่หัวเผาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ
การตรวจสอบและดูแลรักษาเพื่อความคุ้มค่าระยะยาว
สุดท้ายนี้ ผมอยากฝากเรื่องการเดินสำรวจไลน์ท่ออย่างสม่ำเสมอครับ ลองสังเกตดูว่ามีจุดไหนที่ฉนวนฉีกขาด หรือมีคราบน้ำมันซึมออกมาหรือไม่ เพราะฉนวนที่ชุ่มไปด้วยน้ำมันเตานั้น นอกจากจะไม่กันความร้อนแล้ว ยังเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้ครับ
การใส่ใจกับรายละเอียดของ ระบบท่อและฉนวนน้ำมันเตา เพียงเล็กน้อย สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของโรงงานท่านได้อย่างมหาศาลครับ หากท่านไม่แน่ใจว่าระบบปัจจุบันของท่านมีประสิทธิภาพดีพอหรือยัง หรือควรปรับปรุงตรงไหน การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบหน้างานจริงเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ
เชื้อเพลิงทดแทนสำหรับโรงงานของคุณ ปรึกษาฟรี โทร 095-926-9984 | 02-922-2270 | st.smartenergy@gmail.com